มัสยิดหวังหัวนอนเดิมมัสยิดบ้านหวังหัวนอนมีประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามอาศัยอยู่ประมาณ 10 ครัวเรือน ยังไม่มีสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจหรือสถานที่รวมกลุ่มในการทำกิจกรรมทางศาสนา ต่อมาเมื่อประมาน พ.ศ. 2498 ได้มีการนำผู้รู้หรือครูสอนศาสนามาสอนเกี่ยวกับการปฏิบัติศาสนกิจและการอ่านอัลกรุอ่านที่บ้านพักของโต๊ะครูที่ชาวบ้านร่วมกันสร้างไว้แต่เมื่อใดที่มีการรวมกลุ่มทำกิจกรรมทางศาสนาเช่น วันฮารีรายอหรือกิจกรรมอื่นๆชาวบ้านก็จะไปทำกิจกรรมที่มัสยิดมรโหมหรือ(มัสยิดบ้านชะรัด)ในปัจจุบันซึ่งมีระยะทางไม่ไกลกันมากนัก
หลังจากนั้นก็มีครูสอนศานาหลายๆท่านเขามาให้ความรู้กับลูกหลานในชุมชนและเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2504 ชาวบ้านได้ทำการก่อสร้างบ้านไม้ยกพื้นขึ้นที่บ้านเลขที่ 113 ม. 7 ตำบลชะรัด อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง และได้ใช้บ้านหลังนั้นเป็นที่ปฏิบัติศาสนกิจและทำกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวกับศาสนาอิสลาม ต่อมาได้ไม่นานบ้านหลังนั้นชำรุดและในปีพ.ศ. 2514 ชาวบ้านในชุมชนได้รวบรวมเงินซื้อที่ดินมีเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ในราคา 7,000 บาท และได้ก่อศร้างอาคารไม้ยกพื้นเรียกกันว่า "บาลาย" ไว้สำหรับปฏิบัติศาสนกิจและสอนตารีกาในวันเสาร์และวันอาทิตย์
เมื่อปี พ.ศ.2524 อาคารไม้ดังกล่าวได้ชำรุดไปตามกาลเวลา ชาวบ้านจึงได้ร่วมกันบริจาคเงินก่อสร้าวอาคารหลังใหม่เป็นอาคารปูนซีเมนต์ชั้นเดี่ยวแต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์มากนักหลังจากนั้นไม่นานได้มีการจดทะเบียนเป็นมัสยิดที่มีชื่อว่า(ญาบัลสะละหม๊ะ) ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 86 ม. 7
เมื่อปี พ.ศ. 2535 ได้รับงบประมาณจาวประเทศคูเวตและจากเงินบริจาคของชาวบ้านได้ต่อเติมปรับปรุวมัสยิดให้สมบูรณ์มากขึ้นและใช้เป็นที่ปฏิบัติศาสนกิจของชาวบ้านหวังหัวนอนมาจนถึงปัจจุบัน