มัสยิดบ้านนาสิมขาอิสลาม
ก่อนจะทราบประวัติความเป็นมาของมัสยิดบ้านนาสิมขา นั้น เราอยากให้ทุกท่านได้ทราบถึง ที่มาของชื่อ บ้านนาสิมขาก่อน เดิมชื่อของมัสยิดบ้านนาสิมขานั้น มาจากคำว่า "นางสิมุขา" ซึ่งเป็นชื่อของผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นชื่อของคนในสมัยก่อน บุคคลนี้ได้ชื่อว่าเป็น คนพับแพว หรือคนทัณฑ์ ซึ่งอาศัยอยู่ในป่า ภูเขา ที่อยู่ของนางจะอยู่ที่ภูเขาหลังโรงเรียนอิสลามศาสตร์ มูลนิธิ ปัจจุบัน โดยนางสิมุขา นั้นจะมีลักษณะรูปร่างสวยงาม ผมยาว มีหน้าตาที่งดงาม และมีจิตใจดี แต่น้อยคนนักที่จะมีโอกาสได้เห็นนาง
การเป็นอยู่ของชาวบ้านสมัยก่อนจะใช้เรือเป็นพาหนะ และใช้คลองที่ติดกับภูเขาลูกนี้ ซึ่งมีลำธารน้ำมาจากน้ำตกมโนราห์ ไหลผ่านถ้ำอัญมณีที่ทุ่งนาชี ไหลเรื่อยมาประชิดภูเขา และลอดใต้ภูเขามาออกทาง โรงเรียนอิสลามศาสตร์ มูลนิธิ (ปอเนาะโคกขี้เหล็ก) ในปัจจุบัน ในการสัญจรชาวบ้านทางโคกไทร บ้านนาทุ่งโพธิ์ บ้านนาบอน ก็จะใช้เส้นทางนี้ในการสัญจรเพื่อนำผลผลิตทางการเกษตร เช่น ยางพารา ข้าว ฯ ไปค้าขายที่ "เมืองเสกัก" หรือเมืองพัทลุง และหลายครั้งที่ชาวใช้เส้นทางนี้เดินเรือ ก็จะมาหยุดพักเรือบริเวณหาดทราย ใกล้ภูเขาลูกนี้เป็นประจำ และทุกครั้งที่ผ่านเส้นทางนี้ ชาวบ้านก็จะได้ยินเสียงคนทอผ้า หรือทอโหก ดังมาจากภูเขาลูกนี้ตลอด ในบางทีก็จะมีอาหารจัดไว้ให้คนสัญจรไปมาได้รับประทาน เคยมีครั้งนึงชาวบ้านบ่นอยากกินขนมโค ก็มีคนเตรียมขนมโคไว้ให้กิน ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่า นางสิมุขา ได้จัดเตรียมไว้ให้ แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีบุคคลคิดไม่ดี คือคนที่ไม่ได้กินของตามที่ตนอยากกิน ได้ปัสสาวะใส่ถาดที่นางเตรียมไว้ให้ หลังจากนั้นมา เสียงทอผ้า หรือทอโหก ก็เริ่มเงียบหายไป และไม่มีอาหารเตรียมไว้ให้ตอนเรือหยุดพักได้กินอีกเลยจนถึงปัจจุบัน ชาวบ้านจึงเรียกบริเวณนี้ว่าบ้านนางสิมุขา และมาเป็นสิมขา ณ ปัจจุบัน
ประวัติการจัดตั้ง
ชาวบ้านนาสิมขา ได้ร่วมกันสร้าง ในปี พ.ศ. 2508 เป็นสุเหร่าที่ทำมาจากไม้ทั้งหลัง สูงประมาณ 5 เมตร ส่วนที่ดินสำหรับสร้างมัสยิดนั้นได้มีผู้บริจาค 4 ท่าน คือ
1. นายสะอาด พ่อของนายสุดหนอด สะแหละ
2. นางเขวน แม่ของนายแดง สามีของนางตีว
3. นายดำหัวใหญ่ พ่อของนายทวมพ่อนางหมุน บ้านพูด และยีกอหยะ หมุนนุ้ย
4. นายแหร้ง พ่อของนายเหย็บ นางเขียว โอฐภิบาล นายสุดและยีกอหยะได้ร่วมบริจาค
คณะชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจกันตัดไม้ เลื่อยไม้ และร่วมกันสร้างสุเหร่าจนสำเร็จ และทุกคนได้ร่วมละหมาดที่สุเหร่านี้เป็นเวลานับ 10 ปี หลังจากนั้น นายหะยีเหม หมุนนุ้ย ได้ไปจดทะเบียนเป็นมัสยิมบ้านนาสิมขา เลขทะเบียน 42 หมู่ที่ 16 ต.ชะรัด อ.เมือง จ.พัทลุง พ.ศ. 2518 โดยหะยีเหม เป็นโต๊ะอิหม่าม มีนายเจ๊ะมะ เป็นคอเต็บ และมีนายดล หมุนนุ้ย เป็นบิลาล อยู่มาประมาณ 10 ปี คณะผู้นำนี้ได้อำลาจากหน้าที่ โดยนายหะยีเหม ก็ได้ชราภาพลง และนายเจ๊ะมะ ก็ไปศึกษาต่อ ณ กรุงไคโร และได้จัดตั้งให้นายยีเหลาะ สะแหละ ได้ดำรงตำแหน่งเป็นโต๊ะอีหม่ามแทน ซึ่งไม่ค่อยได้มีเวลาในการดูแลสุเหร่า อย่างจริงจัง
ต่อมานายลูหา บุตรฤทธิ์ มาจากกระบี่ ลูกเขยในยีโกบ หมาดโส๊ะ เป็นผู้รู้คนหนึ่งในหมู่บ้านที่มีความรู้ทางด้านศาสนา เป็นที่ยอมรับของคนในหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงได้เลือกให้นายลูหา บุตรฤทธิ์ เป็นโต๊ะอิหม่ามของหมู่บ้าน ตามมาด้วย นายยะยา หมุนนุ้ย นายหมาน สะแหละ นายดล หมุนนุ้ย นายมันสอด หมาดหมาน เป็นโต๊ะอิหม่ามจนถึงปัจจุบัน และได้จัดทำมัสยิดขึ้น นำโดยนายยีส้อ หมาดหมาน มาจนถึงทุกวันนี้