ประวัติความเป็นมาฯ

มัสยิดริยาดุนมุมีนีน (บ้านท่าสน)
มัสยิดริยาดุนมุมีนีน หรือรู้จักกันทั่วไปว่ามัสยิดท่าสน ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวมุสลิมบ้านท่านสนและนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยทั้งสองสถาบัน คือ มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี ตลอดจนข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ที่มารับราชการ ทำงาน และค้าขายที่อาศัยในละแวกนี้ สถานที่ตั้งคือบ้านท่าสน จึงนับได้ว่ามัสยิดแห่งนี้มีความสำคัญกับชุมชนเป็นอย่างมาก เดิมที่มัสยิดแห่งนี้ ชื่อ สลามาตุ้ลอิสลาม เริ่มก่อตั้งขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2505 โดยฮัจยีอิสมาแอล โต๊ะบาย หรือ หมอแอร์ หรือ ผู้ใหญ่แอร์แล้วแต่ชาวบ้านจะเรียกขาน โดยอีหม่ามแอร์รวมตัวกับชาวบ้านประมาณ 10 กว่าครัวเรือน เพื่อที่จะสร้างสถานที่ละหมาดโดยสร้างแบบง่ายๆตามกำลังศรัทธาของชาวบ้านในสมัยนั้น เมื่อเวลาผ่านไปอาคารเก่าทรุดโทรมจึงได้ปรับปรุงจาก บะหลาย(บะแล) ที่เป็นอาคารไม้เสากลมมุงหลังคาด้วยตับจากกั้นฝาผนังด้วยตับจากเช่นกันสำหรับตัวอาคารเป็นไม้เนื้อแข็งมุงด้วยกระเบื้องลอนคู่ ต่อมาในปี พ.ศ.2539 เมื่อฮัจยีอิสมาแอล โต๊ะบาย เสียชีวิตลง พี่น้องสัปปุรุษมัสยิดบ้านท่าสนและคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มีมติคัดเลือกร่วมกันแต่งตั้ง ฮัจยีคมสัน โต๊ะบายเป็นอีหม่ามคนต่อมา อิหม่ามคมสัน โต๊ะบาย ได้วิ่งเต้นจดทะเบียนเพื่อให้ถูกต้องตามตามพระราชบัญญัติการบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม พ.ศ. 2540 จนประสบผลสำเร็จทะเบียนจัดตั้งมัสยิด เมื่อปี พ.ศ. 2551 ทะเบียนเลขที่ 204 หมู่ที่ 7 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี โดยฮัจยีคมสัน โต๊ะบาย อีหม่ามประจำมัสยิดรียาดุนมุมีนีน
ต่อมาปี พ.ศ.2544 ได้มีนักศึกษามุสลิมจากมหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี ได้เข้าปฏิบัติศาสนกิจ ศาสนพิธีละหมาดวันศุกร์จึงทำให้สถานที่ละหมาดไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติศาสนกิจรองรับนักศึกษาทั้ง 2 สถาบัน ทำให้ต้องละหมาดบนพื้นดิน พื้นหิน ด้านข้างมัสยิดและบริเวณโดยรอบ ดังนั้นอิหม่ามคมสัน โต๊ะบาย และคณะกรรมการมัสยิดจึงประชุมและมีมติร่วมกัน โดยได้ทำการขอความอนุเคราะห์งบประมาณไปยังมูลนิธิส่งเสริมจริยธรรมปัตตานีเพื่อที่จะก่อสร้างอาคารมัสยิดหลังใหม่เพื่อให้เพียงพอกับผู้มาใช้บริการยังมัสยิด โดยได้ทำการก่อสร้างมัสยิดหลังใหม่ ในปี พ.ศ.2549 แต่ก็ยังไม่สามารถรองรับจำนวนนักศึกษาจากทั้งสองสถาบันได้ อีกทั้งยังมีข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน อีกจำนวนมากที่มาร่วมกิจกรรมประจำวันศุกร์(ละหมาดญุมอัต)
ต่อมาปี พ.ศ.2554 นายซ่อแหล๊ะ โต๊ะบาย คอเต็บประจำมัสยิด ลูกชายของนายคมสัน โต๊ะบาย อีหม่ามประจำมัสยิดมีอาชีพเป็นสื่อมวลชนภายใต้การกำกับดูแลของกรมประชาสัมพันธ์และมีความคล่องตัวในการประสานกับหน่วยงานภาครัฐ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี จึงเขียนโครงการเสนอมหาลัยฯและสามารถของบประมาณมาต่อเติมเป็นอาคารโปร่งพร้อมหลังคาพร้อมฉนวนความร้อนสามารถรองรับนักศึกษาได้จนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบันมีนายซ่อแหล๊ะ โต๊ะบาย ได้รับการคัดเลือกจากพี่น้องสัปปุรุษประจำมัสยิด และจากคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ดำรงตำแหน่งอิหม่ามประจำมัสยิด อ.อาดือนา นิโด เป็นคอเต็บ นายสะมะแอน โต๊ะบาย เป็นบิหลั่น และคณะกรรมการอีก 12 คน
สำหรับวิสัยทัศน์ในการบริหารมัสยิดรียาดุนมุมีนีน(บ้านท่าสน)อีหม่ามคนปัจจุบันเป็นคนหนุ่ม ไฟแรง มีความมุ่งมั่น คล่องตัวในการประสานงานกับภาครัฐ และเอกชน อีกทั้งยังมีความตั้งใจสูง ซึ่งอยู่ในวัยกำลังทำงานมึความต้องการพัฒนามัสยิดให้เป็นศูนย์กลางในการประกอบศาสนกิจของชุมชน การศึกษาเรียนรู้ และแก้ปัญหาของชุมชนที่ยั่งยืน และพัฒนามนุษย์สู่มุอฺมิน ปัจจุบันมัสยิดริยาดุนมุมีนุน (บ้านท่าสน) นอกจากเป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจ ยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ เช่น ศูนย์อบรมจริยธรรมอิสลามประจำมัสยิด สถานที่เรียนอัลกุรอ่านของเด็ก ๆ ในชุมชน สถานที่การเรียนการสอนกีตาบสำหรับผู้ใหญ่ สถานที่จัดกิจกรรมกลุ่มสตรีบ้านท่าสน สถานที่อบรมอาชีพ สถานที่ประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน อิหม่าม และคณะกรรมการประจำมัสยิดริยาดุนมุมีนุน (บ้านท่าสน) มีความมุ่งมั่นที่จะให้มัสยิดเป็นศูนย์กลางของชุมชนในทุก ๆ ด้านตามนโยบายรัฐบาลมั่นคง มั่งคั้ง ยั่งยืน