บ่อผุดหรือหนองผุดเป็นบ่อน้ำผุดจากหินกลางป่าทึบไม่เคยแห้ง เป็นแหล่งน้ำที่คนเดินป่าและสัตว์ป่าดื่มกินมาช้านาน ประมาณปี พ.ศ. 2495 ป่าเริ่มเสื่อมโทรมมีคนมาทำที่พักชั่วคราวไว้เลี้ยงสัตว์ ปี พ.ศ. 2500 เริ่มมีคนมาอยู่อาศัยประจำทำอาชีพเลี้ยงสัตว์และทำไร่ คือ นาย ร่อเหม โต๊ะสัน, นาย ยะหย่า โต๊ะแอ, นาย กอเส็ม บุญธรรม, ฮัจยี ดล ไม่ทราบนามสกุล, นาย ถวัลย์ สง่าหวัง, นาย ร่ำหลี โต๊ะแอ และ นาย ดลร่อหมาน แดงดี ปี พ.ศ. 2506 ได้ร่วมมือกันทำที่ละหมาดและสอนเรียนฟัรดูอีน ปี พ.ศ. 2511 เริ่มวางรากฐานก่อสร้างมัสยิด โดย นาย กอเส็ม บุญธรรม ได้อุทิศที่ดินให้เป็นที่สร้างมัสยิดประมาณ 2 ไร่ เป็นที่สุสานฝังศพ 1 ไร่, นาง ส้า โต๊ะสัน อุทิศที่ดินให้สร้างอาคารสอน-เรียนภาคฟัรดูอัยนิ์อีก 1 ไร่ ปี พ.ศ. 2516 มัสยิดยังไม่แล้วเสร็จแต่เริ่มใช้งาน โดยมี นาย ดลร่อหมาน แดงดี เป็นอิหม่าม นาย ถวัลย์สง่าหวัง เป็นคอเตบ นาย ทวี โต๊ะแอ เป็นบิหลั่น ต่อมาได้ยื่นขอจดทะเบียนในนาม มัสยิดนูรุลฮีดาย๊ะฮ์(น้ำผุด) เมื่อปี พ.ศ. 2524 ปี พ.ศ. 2552 นาง ส้า โต๊ะสัน ขายที่ดินให้มัสยิด 1 ไร่ และอุทิศให้มัสยิดอีก 05 ไร่ ปัจจุบันมัสยิดนูรุลฮีดาย๊ะ(น้ำผุด) มีนาย รูเบด อีดเกิด เป็นอิหม่าม นาย ไซนุคดิน เป็นคอเต็บ นาย รำ่หลี โต๊ะแอ เป็นบิหลั่น มีพื้นที่รวม 5.5 ไร่ (แต่ยังไม่โอนและจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เป็นของมัสยิด)
ผู้ให้ข้อมูล : นาย ร่ำหลี โต๊ะแอ