จากคนผู้สูงอายุได้ให้ข้อมูลเล่าประวัติความเป็นมาดังเดิมมีสองคนผัวเมียชื่อเรียกกัน โต้ะชีกับโต้ะบ๊ะและได้มีโต้ะทองกับโต้ะหมาดซึ่งสามีภรรยากันและกำเนิดเกิดลูก10คนคนแรกเป็นชายชื่อโต้ะเตบ.หมาดเส็มมีบุตรชายชื่อนายแดง.มีบุตรชายชื่อนายหมาดเหรบ มีบุตรชายชื่อนายเล็ก หมาดเส็ม ลูกคนสุดท้องชื่อโต้ะ. เมื่อก่อนจะมีมัสยิดที่บ้านปากหลาดอยู่บริเวรบ้านเลขที่ 1 หลังบ้านนายลิหยา ต่อติด ต่อจากนั้นได้ไปก่อสร้างมัสยิดชั่วคราวที่ต้นโดณ.บ้านร่าปูต่อจากนั้นได้ก่อสร้างให้มีความมาตฐานได้ทำการก่อสร้างหลังใหม่ในพื้นที่บ้านร่าปูจนถึงปัจจุบันแต่ความเจริญเติบโตประชากรเริ่มมีมากขึ้นพร้อมด้วยความเจริญของบ้่านเมืองก็ได้แบ่งแยกหมู่บ้านหมู่ที่ ๑ ต่อท้ายจากบ้านอ่าวทองหลางเป็นหมู่ที่ ๘ เมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๓๖ จาการที่ชุมชนมีการเจริญเติบโตชุมชนหมู่ที่ ๘ ก็คิดหาที่ดินเพื่อก่อสร้างมัสยิดในพื้นที่ของหมู่ที่8บ้านหัวหินแต่ในพื้นที่ไม่มีพื้นที่สาธารณะจึงหาแนวทางสรรหาเพื่อใครมีที่ดินที่จะบริจาคเพื่อสร้างมัสยิด ด้วยความเมตตาจากอัลลอฮ์มีผู้บริจาคที่ดินคือ.นางสาวส่าร่า สูน่าหู (สูเขียด) เป็นลูกของนางแล่หา และนางแล่หาเป็นลูกของโต้ะท้วมและโต้ะท้วมเป็นลูกของโต้ะหมาด.โต้ะทอง...ซึ่งมีจิตศรัทธาเพื่อศาสนาบริจาคให้ก่อสร้างมัสยิดจำนวนเนื้อที่ ๑ งาน ๘๘ ตารางวาเมื่อปี ๒๕๓๖และได้เริ่มวางรากฐานตามแบบแปลน ๒ ชั้น ความกว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๑๘ เมตร ต่อจากนั้นชุมชนบ้านหัวหินได้ทำการก่อสร้างตั้งแต่ปี2539-2540ก็ได้ทำการละหมาดชั้นล่างไปพลางๆก่อนและได้ทำการก่อสร้างไปเรื่อยๆจากนั้นก็ได้มีคนบริจาคเงินเพื่อสมทบทุนซื้อที่ดินเพิ่มอีกจำนวนเนื้อที่ 69 ตารางวาจากนายวีระเดช สหัสนฤภัยพงษ์และเมื่อปี 2557 ได้ซื้อที่ดินเพิ่มอีกจำนวน 2 งาน 69 ตารางวาและของนายถนอม รักษากิจจำนวนเนื้อที่ 7x12 เมตรแบบผ่อนใช้ในรูปแบบคณะกรรมการมัสยิดและชุมชนโดยมีนายร่อหมาด ธรรมจิตต์เป็นประธาน/อีหม่ามนายร่อหมาด ธรรมจิตต์ได้ลาออกจากตำ่แหน่งอีหม่าม และสัปปบุรุษได้เลือกเข้ามาอีกครั้งเมื่อวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๑