ปี พ.ศ.2475 นายสะอาด สีหมุ่น มาจากบ้านตามะ(อ่าวน้ำเมา) นายสมัน ลายแบน มาจากบ้านแหลมโพธิ์มาตั้งบ้านเรือนและทำการเบิกนาที่บ้านป่ายาง มีบ้านจำนวน 2 หลังคาเรือน และในขณะเดียวกันได้มีคนจีนอพยพมามาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ไสไทยซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของบ้านป่ายาง บ้านป่ายางจึงถูกเรียกว่าบ้านนาหัวนอน
ปี พ.ศ.2497 นายหลงจิ กุลมาตย์ มาจากบ้านตลิ่งชัน ได้มาแต่งงานกับบุตรสาวของนายสมัน
ลายแบน นายหลงจิ กุลมาตย์ จึงเป็นบ้านหลังที่ 3
ปี พ.ศ.2498 นายดำ ห้าฝา มาจากบ้านแหลมโพธิ์ ได้มาแต่งงานกับบุตรสาวของนายสะอาด สีหมุ่น จึงมีบ้านหลังที่4 ในปีเดียวกัน นายม่าเกบ ลูกเล็กได้มาแต่งงานกับบุตรสาวของนายส่วน ค้ามากเป็นบ้านหลังที่ 5 นายเหรบ ช่างเรือ มาจากอ่าวนาง เป็นบ้านหลังที่ 6 นายหมาดส้า ค้ามากเป็นบ้านหลังที่ 7 นายหยาด ช่างเรือ บ้านหลังที่ 8 นายหาก สันขวา นายหล้า สันขวานายดาร๊ะห์ สันขวา เป็นบุตรของโต๊ะนางมาจากอ่าวนาง เป็นบ้านหลังที่ 9,10,11 นายเฉ็มช่างเรือ บ้านหลังที่ 12 นายเกษม สันขวา บ้านหลังที่ 13 นายเกษม ลายแบน บ้านหลังที่ 14
ปี พ.ศ.2499 นายสมัน ลายแบน และชาวบ้านนาหัวนอน ได้ประชุมปรึกษาหารือ เพื่อสร้างสุเหร่านาหัวนอน โดยนายสมัน ลายแบน และชาวบ้านนาหัวนอนได้อุทิศที่ดิน ประมาณ 3 งาน ใช้เป็นสถานที่ละหมาดญามาอะห์ ขนาดความกว้าง,ยาว 15 × 8 สร้างแบบก่ออิฐแดงสูงประมาณ 1เมตร ครึ่ง ใช้ไม้ไผ่ฝาสานกั้น หลังคา มุงสังกะสี และชาวบ้านนาหัวนอนได้แต่งตั้ง นายสมัน ลายแบน เป็นอิหม่าม คนแรก แต่ยังไม่ได้จดทะเบียน
ปี พ.ศ.2514 นายดำ ห้าฝา ได้รับตำแหน่งอิหม่าม ต่อจากนายสมัน ลายแบน ซึ่งในขณะนั้น
ยังไม่ได้จดทะเบียน และได้ปรับปรุงอาคารสุเหร่าจากกั้นฝาสาน มาใช้กระดานกั้น
ปี พ.ศ.2518 นายดำ ห้าฝา และชาวบ้านนาหัวนอนได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเป็นมัสยิดบ้านนาหัวนอน ได้ทะเบียนเลขที่ 97 เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2518 โดยมีนายดำ ห้าฝาดำรงตำแหน่งอิหม่าม นายย่าสัน ศรีหมุน ดำรงตำแหน่งคอเตบ นายเกษม สันฝา
ดำรงตำแหน่งเป็นบิหลั่น
ปี พ.ศ.2519 นายหลงจิ กุลมาตย์ ได้รับตำแหน่งรักษาการอิหม่าม ต่อจากนายดำ ห้าฝา และได้ขยายขนาดของสุเหร่า จาก15×8 เป็น 20×8
ปี พ.ศ.2521 นายสุวรรณ เกาะกลาง ได้รับการคัดเลือกจากสัปปุรุษให้ดำรง ตำแหน่ง อิหม่าม ต่อจากนายหลงจิ กุลมาตย์ เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2521 และนายประเสริฐ สีหมุ่น ดำรงตำแหน่งคอเตบนายหมาด บุตรอีด ดำรงตำแหน่งบิหลั่น และได้รื้ออาคารหลังเก่าออก สร้างอาคารหลังใหม่โดยใช้อิฐบล็อกทำเป็นฝาผนัง หลังคามุงกระเบื้องลอนคู่
ปี พ.ศ.2531 นายหล้า สีหมุ่น ได้รับการคัดเลือกจากสัปปุรุษให้ดำรง ตำแหน่ง อิหม่าม ต่อจากนายนายสุวรรณ เกาะกลางเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2531 โดยมีนายประเสริฐ
สีหมุ่น ดำรงตำแหน่งคอเตบ นายหมาด บุตรอีด ดำรงตำแหน่งบิหลั่น และได้ขยายขนาดของอาคารจาก 20×8 เป็น 25×8
ปี พ.ศ.2539 นายสมยศ ช่างเรือ ได้รับการคัดเลือกจากสัปปุรุษให้ดำรง ตำแหน่ง อิหม่าม ต่อจากนายหล้า สีหมุ่น เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2539 โดยมีนายประเสริฐ สีหมุ่น
ดำรงตำแหน่งคอเตบ นายบรรจง เกาะกลาง ดำรงตำแหน่งบิหลั่น และได้ต่อเติมอาคารออกด้านข้างด้านละ 2 เมตร เมื่อปี พ.ศ.2547
ปี พ.ศ.2553 นายประเสริฐ สีหมุ่น ได้รับการคัดเลือกจากสัปปุรุษให้ดำรงตำแหน่ง อิหม่าม ต่อจากนายสมยศ ช่างเรือ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2553 โดยมีนายเจริญ สีหมุ่น ดำรงตำแหน่งคอเตบ นายบรรจง เกาะกลาง ดำรงตำแหน่งบิหลั่น และได้รื้ออาคารหลังเก่าออกทั้งหมด และสร้างอาคารใหม่เป็นอาคาร 2 ชั้น โดยใช้ชื่อมัสยิดว่า มัสยิด ยานูบุลมุเนาวาเราะห์ บ้านนาหัวนอน จนถึงปัจจุบัน