ประวัติความเป็นมาฯ

เริ่มแรกมีมุสลิมจากฉะเชิงเทรา เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ อพยพมาอยู่ในพื้นที่ตำบลชุมโค อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร ได้เริ่มมาแผ้วถางพื้นที่เพื่ออยู่อาศัย และทำกิน โดยการนำของ นายเฉลิม แซ่คู (เฉลิม ชุมเกษียร) ผู้ใหญ่บ้านในขณะนั้นเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือ และกำหนดให้พื้นที่บริเวณเชิงเขาให้เป็นที่ตั้งมัสยิด
แต่มุสลิมส่วนใหญ่ในขณะนั้นในขณะนั้นเห็นว่าเป็นพื้นที่ที่อยู่ไกลจากแหล่งน้ำ นายเฉลิม แซ่คู จึงได้ปรึกษากับนายประยูร พัดทรัพย์ ซึ่งมีที่ดินติดลำธาร นายประยูรจึงบริจาคที่ดินของตนเพื่อก่อสร้างมัสยิด จึงได้เริ่มสร้างมัสยิดขึ้นในปี พ.ศ.2505
มัสยิดเป็นอาคารไม้ยกพื้น ฝาไม้ไผ่ หลังคามุงจาก ต่อมา กีหมัดซึ่งเป็นคนฉะเชิงเทราได้บริจาคเงินจากหลังคาจากเป็นหลังคาสังกะสี
ต่อมาได้จึงมีความเห็นว่าในพื้นที่มีต้นไม้ใหญ่จำนวนมาก น่าจะเลื่อยมาทำเป็นฝาของมัสยิด จึงได้ติดต่อเจ๊เล็ก เจ้าของโรงเลื่อยในมาบอำมฤต ซึ่งเจ๊เล็กก็นำไม้ไปเลื่อยให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง มาช่วยในการซ่อมแซมและเป็นผู้บริจาคซื้อประตูหน้าต่างให้อีกด้วย
และเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2532 เกิดพายุไต้ฝุ่นเกย์ พัดเข้าพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดชุมพร เป็นเหตุให้มัสยิด และบ้านเรือนเสียหายอย่างหนัก
แต่ด้วยพลังศรัทธาจากมุสลิมทั่วประเทศทางมัสยิดจึงได้เงินบริจาคมาส่วนหนึ่งเพื่อมาสร้างมัสยิดขึ้นมาใหม่ โดยมีผู้บริจาคที่ดินอีกฝั่งหนึ่งให้สร้างมัสยิด จึงได้ย้ายมาสร้างในที่ดินแห่งใหม่คือที่ตั้งมัสยิด ณ ปัจจุบัน
มัสยิดแห่งใหม่ได้เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ.2533 จนแล้วเสร็จสมบูรณ์ ในปี พ.ศ. 2553